การปฏิบัติบำรุง ก่อนใช้งาน ขณะใช้งาน และหลังใช้งาน ปัญหาต่างๆที่จะเกิดก็จะทำการแก้ไขได้ทันที ทำให้ยืดอายุการใช้งานของรถยนต์ได้ยาวนานขึ้น และมีความปลอดภัยในชีวิตประจำวันครับ

การใช้งานรถยนต์ภายในชีวิตประจำวัน ในขณะขับขี่ ตาดู หูฟัง จมูกดมกลิ่น

• ตาดู คือ ดูเกจวัดต่างๆ ว่ามีความผิดปรกติหรือไม่
• หูฟัง คือ ฟังเสียงผิดปรกติต่างๆของรถยนต์หรือเครื่องยนต์ในขณะขับขี่
• จมูกดมกลิ่ม คือ ดูว่ามีกลิ่มไหม้ ระบบสายไฟหรือระบบเบรคหรือครัชมีกลิ่นหรือไม่

ส่วนการใช้ในระบบแก๊สทั่วๆไป เมื่อสตาร์ทครั้งแรกเป็นระบบน้ำมัน ขับไปเรื่อยๆ อุณหภูมิได้ 40 องศา บวกรอบเครื่องยนต์ในขณะขับขี่ได้ 1,500 - 2,000 รอบ ระบบก็จะเปลี่ยนเป็นแก๊สโดยอัตโนมัติ ไฟที่สวิทซ์ก็จะค้างแจ้งสถานะว่าเป็นแก๊ส ที่สวิทซ์ก็จะมีระดับแก๊สบอก ใช้งานไปจนแก๊สหมดระบบก็จะตัดเข้ามาเป็นน้ำมัน จะมีเสียงอ๊อดดังตื๊ดๆ แสดงว่าตอนนี้เป็นน้ำมันแล้ว ให้ใช้มือกดไปที่สวิทซ์เพื่อปิดสัญญาณอ๊อด ซึ่งขณะนี้เป็นน้ำมันแล้ว และในกรณีแก๊สรั่วระบบก็จะตัดเข้าหาระบบน้ำมันโดยทันที โดยวาล์วที่ถังก็จะปิดและวาล์วที่ด้านหน้าของรถยนต์ก็จะปิด ทำให้แก๊สไม่สามารถไหลมาได้ การใช้แก๊สต้องใช้น้ำมันโดยเกณฑ์เฉลี่ย ประมาณ 30 กิโล ต่อสัปดาห์ ถ้าหากเราไม่ได้ระบบน้ำมันนานๆ ค่าอ๊อกเทนในน้ำมันก็จะระเหยไป เมื่อเรากลับมาใช้ระบบน้ำมันก็จะเกิดการเผาไหม้ไม่สมบรูณ์ ทำให้ปั้มติ๊กเสีย หัวฉีดน้ำมันตัน ถ้ามีปัญหาในระบบน้ำมัน ก็ให้กดสวิทซ์ค้างไว้ จากนั้นให้บิดกุญแจเพื่อสตาร์ท ระบบก็จะเข้าระบบแก๊สโดยทัน (อันนี้คือการสตาร์ทด้วยแก๊ส) สามารถกระทำได้โดยที่ไม่เป็นอันตรายใดๆต่อเครื่องยนต์ ที่สำคัญไม่ควรปล่อยให้น้ำมันหมดถังเชื้อเพลิง เพราะจะทำให้ปั้มติ๊กร้อนและไหม้ และถ้าหากปฏิบัติได้ตามคำแนะนำ ก็จะช่วยยืดอายุการใช้งานรถยนต์และลดปัญหาต่างๆที่จะเกิดขึ้นลงไปได้มากครับ